Bloom’s Taxonomy
บลูม (Benjamin Samuel Bloom) นักการศึกษาชาวอเมริกันที่เชื่อว่า
"การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องอาศัยพฤติกรรมการเรียนรู้และจิตวิทยาพื้นฐาน"
กล่าวถึงการจำแนกการเรียนรู้ตามทฤษฎีของบลูม หรือเรียกว่า ระดับขั้นความสามารถของบลูม (Bloom’s Taxonomy) ซึ่งแบ่งเป็น 3 ด้าน คือ ด้านพุทธิพิสัย ด้านทักษะพิสัย และด้านจิตพิสัย โดยในแต่ละด้านจะมีการจำแนกระดับความสามารถจากต่ำสุดไปถึงสูงสุด เช่น
- ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) เริ่มจากความรู้ ความเข้าใจ การนำไปใช้ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ การประเมิน นอกจากนี้ยังนำเสนอระดับความสามารถที่มีการปรับปรุงใหม่ตามแนวคิดของ Anderson and Krathwohl (2001) เป็น การจำ (Remembering) การเข้าใจ(Understanding) การประยุกต์ใช้ (Applying) การวิเคราะห์ (Analysing) การประเมินผล (Evaluating) และการสร้างสรรค์ (Creating)
- ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) จำแนกเป็น การรับรู้, การตอบสนอง, การสร้างค่านิยม, การจัดระบบ และการสร้างคุณลักษณะจากค่านิยม
- ด้านจิตพิสัย (Affective Domain) จำแนกเป็น ทักษะการเคลื่อนไหวของร่างกาย, ทักษะการเคลื่อนไหวอวัยวะสองส่วนหรือมากกว่าพร้อม ๆ กัน, ทักษะการสื่อสารโดยใช้ท่าทาง และทักษะการแสดงพฤติกรรมทางการพูด
พุทธพิสัย (Cognitive Domain, Thinking)
"พฤติกรรมด้านสมองเป็นพฤติกรรมเกี่ยวกับสติปัญญา ความรู้ ความคิด ความเฉลียวฉลาด ความสามารถในการคิดเรื่องราวต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นความสามารถทางสติปัญญา" โดยอาศัย ทฤษฎีการเรียนรู้และจิตวิทยาพื้นฐานว่า มนุษย์จะเกิดการเรียนรู้ และแบ่งพฤติกรรมที่เกี่ยวกับสติปัญญา (Cognitive Domain) ออกเป็น 6 ระดับตามความซับซ้อน ได้แก่
- การจดจำ (Remembering) การใช้ความจำเพื่อสร้างหรือค้นหานิยาม ข้อเท็จจริง หรือทบทวนข้อมูลที่เรียนมาก่อนหน้า ซึ่งการที่ผู้เรียนจะสามารถตอบได้ว่าสิ่งที่เรียนคือสิ่งใด มาจากไหน นั้นเกิดจากการจดจำ ดังนั้น ความรู้ที่เกิดจากความจำ (Knowledge) เป็นความสามารถของสมองในการระลึกได้ จำความรู้ สารสนเทศ แสดงรายการได้ ระบุบอกชื่อได้ ซึ่งเป็นความจำระยะยาว
- การทำความเข้าใจ (Understanding) สร้างเข้าใจความสัมพันธ์ ความหมายของสิ่งที่ได้เรียนจากองค์ความรู้หลากหลายรูปแบบ อาจเป็นข้อความ ภาพ หรือกิจกรรม เช่น การสื่อสาร การแปลความ การยกตัวอย่าง การจำแนก การสรุป สู่การนำเสนอหรือสามารถอธิบายตามความเข้าใจของตัวเองได้ ดังนั้น ความเข้าใจ (Comprehend) เป็นความสามารถของสมองในการแปลความหมายยกตัวอย่าง สรุป อ้างอิง การศึกษาของตัวเอง
- การประยุกต์ใช้ (Applying) ผู้เรียนสามารถใช้เนื้อหา ความรู้ที่เรียนมาไปใช้เป็นกระบวนการที่ได้เรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดในสถานการณ์ใหม่ หรือสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันเพื่อนำไปปฏิบัติ และใช้ในการแก้ปัญหาได้ เช่น รูปแบบการนำเสนอผลงาน
- การวิเคราะห์ (Analyzing) ความสามารถในการแยกแยะข้อมูล ที่ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้เรียนมาคิดอย่างลึกซึ้ง รวมทั้งหาความสัมพันธ์ เชื่อมโยงเเละเหตุผลได้ สามารถแก้ปัญหา ตรวจสอบได้ การแยกความรู้ออกเป็นส่วน ๆ โดยสามารถให้เหตุผลว่าความรู้ส่วนย่อยที่แยกแต่ละส่วน มีความเกี่ยวข้องกับโครงสร้างของความรู้ทั้งหมดอย่างไร
- การประเมิน (Evaluating) การที่ผู้เรียนสามารถใช้ความสามารถของสติปัญญาเกี่ยวกับการตรวจสอบ ควบคุม ทดสอบ เพื่อค้นหาความไม่สอดคล้องหรือความขัดแย้งในกระบวนการ หรือผลผลิตการวิพากษ์ต่าง ๆ เพื่อการตัดสินใจ การตั้งเกณฑ์ตัดสิน เปรียบเทียบคุณภาพหรือประสิทธิภาพของการเรียนรู้ได้ สามารถตัดสินใจตรวจสอบ
และไตร่ตรองคุณค่าของข้อมูลได้ - การสร้างสรรค์ (Creating) ความสามารถในสติปัญญาในการสร้างสิ่งใหม่ จากลิ่งที่เคยเรียนรู้ หรือพบเห็นในบริบทต่าง ๆ ที่สามารถในการสร้างสรรค์งานวางแผนงาน และดำเนินตามกระบวนการจนได้รับความสำเร็จ เป็นการนำเอาความรู้ที่มีอยู่มาเชื่อมโยง และจัดระบบใหม่ให้เป็นสิ่งที่สมบูรณ์
Levels | Other verbs | Description | A sample action verbs |
Remembering | 1 | Exhibit memory of previously leared malcrial by recalling facts, terms, basic concepts,and answers. | recognize, choose, identify, select, match, label, name, read, quote, recite, state, reproduce, outlinc, recall, repeat, locate, define |
Understanding | 2 | Construct meaning from instructional messages, including oral, written. and graphic communication by organizing of facts and ideas comparing, translating, interpreting, giving descriptions,and stating main ideas. | classify, explain, select, tell, illustrate, express, give example, show, categorize, paraphrase, defend, interpret, distinguish, interrelate, extend, indicate, paraphrase, restate, estimate, indicate, convert, represent, translate generalize |
Applying | 3 | Solve problems to new situations by applying acquired knowledge. facts, techniques and rules in a different way. | organize, grade, calculaie. divide, subtract, modify, use, compute, add, multiply, prepare, solve, change, dramatize, solve, produce, design, complete, sketch, operate |
Analyzing | 4 | Examine and break information into partsby identifying motives or causes. Make inferences and find evidence to support generalirations. | identify, detect, discriminate, interrelate, breakdown, develop, infer, relate, categorize, distinguish, subalivide |
Evaluating | 5 | Present and defend opinions by making judgments about information, validity of ideas, or quality of work based on a sel of criteria. |
assess, grade, judge, contrist, measures, defend, critique, rest. examine, rank, rate, compare, contrast, determine, justify, support. criticize, conclude |
Creating | 6 | Compile information together in a different way by combining elements in a new pattem or proposing altemative solutions. |
combine, composes develop, rewrites propose, pescribe, hypothesize, formulate, generate, produce, transforn, devise, design integrate, drive |
ทักษะพิสัย (Psychomotor Domain; Skill)
"พฤติกรรมที่บ่งถึงความสามารถในการปฏิบัติงานได้อย่างคล่องแคล่ว ชำนาญ ซึ่งแสดงออกมาได้โดยตรงโดยมีเวลาและคุณภาพของงานเป็นตัวชี้ระดับของทักษะ" พฤติกรรมด้านทักษะพิสัย ประกอบด้วย พฤติกรรมย่อย ๆ 5 ขั้น ดังนี้
- การเลียนแบบ เป็นการให้ผู้เรียนได้รับรู้หลักการปฏิบัติที่ถูกต้อง หรือ เป็น การเลือกหาตัวแบบที่สนใจ
- กระทำตามสั่ง หรือ เครื่องชี้แนะ เป็นพฤติกรรมที่ผู้เรียนพยายามฝึกตามแบบ ที่ตนสนใจและพยายามทำซ้ำ เพื่อที่จะให้เกิดทักษะตามแบบที่ตนสนใจให้ได้ หรือ สามารถ ปฏิบัติงานได้ตามข้อแนะนำ
- การหาความถูกต้อง พฤติกรรมสามารถปฏิบัติได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องอาศัย เครื่องชี้แนะ เมื่อได้กระทำซ้ำแล้ว ก็พยายามหาความถูกต้องในการปฏิบัติ
- การกระทำอย่างต่อเนื่องหลังจากตัดสินใจเลือกรูปแบบที่เป็นของตัวเองจะ กระทำตามรูปแบบนั้นอย่างต่อเนื่อง จนปฏิบัติงานที่ยุ่งยากซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง คล่องแคล่ว การที่ผู้เรียนเกิดทักษะได้ ต้องอาศัยการฝึกฝนและกระทำอย่างสม่ำเสมอ
- การกระทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ พฤติกรรมที่ได้จากการฝึกอย่างต่อเนื่องจนสามารถ ปฏิบัติ ได้คล่องแคล่วว่องไวโดยอัตโนมัติ เป็นไปอย่างธรรมชาติซึ่งถือเป็นความสามารถของการ ปฏิบัติในระดับสูง
ด้านจิตพิสัย (Affective Domain)
"ค่านิยม ความรู้สึก ความซาบซึ้ง ทัศนคติ ความเชื่อ ความสนใจและคุณธรรม พฤติกรรมด้านนี้อาจไม่เกิดขึ้นทันที" ดังนั้น การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยจัด สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และสอดแทรกสิ่งที่ดีงามอยู่ตลอดเวลา จะทำให้พฤติกรรมของผู้เรียน เปลี่ยนไปในแนวทางที่พึงประสงค์ได้ ประกอบด้วยพฤติกรรมย่อย ๆ 5 ระดับ ได้แก
- การรับรู้หรือการใส่ใจต่อสิ่งเร้า (Receiving or Attending) เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นต่อปรากฎการณ์ หรือสิ่งเร้าอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่ง เป็นไปในลักษณะของการแปลความหมายของสิ่งเร้านั้นว่าคืออะไร แล้วจะแสดงออกมาในรูปของ ความรู้สึกที่เกิดขึ้น
- การตอบสนอง (Responding) เป็นการกระทำที่แสดงออกมาในรูปของความเต็มใจ ยินยอม และ พอใจต่อสิ่งเร้านั้น ซึ่งเป็นการตอบสนองที่เกิดจากการเลือกสรรแล้ว
- การเห็นคุณค่า (Valuing) การเลือกปฏิบัติในสิ่งที่เป็นที่ยอมรับกันในสังคม การยอมรับนับถือใน คุณค่านั้น ๆ หรือปฏิบัติตามในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จนกลายเป็นความเชื่อ แล้วจึงเกิดทัศนคติที่ดีใน สิ่งนั้น
- การจัดระบบค่านิยม (Organization) การสร้างแนวคิด จัดระบบของค่านิยมที่เกิดขึ้นโดยอาศัยความสัมพันธ์ ถ้าเข้ากันได้ก็จะยึดถือต่อไปแต่ถ้าขัดกันอาจไม่ยอมรับอาจจะยอมรับค่านิยมใหม่โดยยกเลิก ค่านิยมเก่า
- บุคลิกภาพแสดงลักษณะ (Characterization) การนำค่านิยมที่ยึดถือมาแสดงพฤติกรรมที่เป็นนิสัยประจำตัว ให้ ประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งที่ถูกต้องดีงามพฤติกรรมด้านนี้ จะเกี่ยวกับความรู้สึกและจิตใจ ซึ่งจะเริ่ม จากการได้รับรู้จากสิ่งแวดล้อม แล้วจึงเกิดปฏิกิริยาโต้ตอบ ขยายกลายเป็นความรู้สึกด้านต่าง ๆ จนกลายเป็นค่านิยม และยังพัฒนาต่อไปเป็นความคิด อุดมคติ ซึ่งจะเป็นควบคุมทิศทาง พฤติกรรมของคนคนจะรู้ดีรู้ชั่วอย่างไรนั้น ก็เป็นผลของพฤติกรรมด้านนี้
ระดับขั้นความสามารถ
ระดับขั้นความสามารถหรือที่เรียกกันว่าระดับพฤติกรรมเป็นระดับขั้นความสามารถที่บลูมสร้างขึ้นมาสําหรับการจัดหมวดหมู่ระดับของคําถามที่เป็นนามธรรม ที่เกิดขึ้นทั่วไปในบริบทของการศึกษา ระดับขั้นความสามารถเป็นโครงสร้างที่มีประโยชน์ สําหรับจัดหมวดหมู่คําถามที่ใช้ในการทดสอบ เนื่องจากผู้สอนทั้งหลายจะตามคําถามที่มีลักษณะเฉพาะตัวภายในระดับขั้นที่เฉพาะเจาะจง และถ้าเราสามารถตัดสินใจได้ว่าจะเลือกระดับคําถามใดไปใช้ในการสอบของเรา เราจะสามารถศึกษาวิธีการใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับคําถามนั้น ๆ ได้
สมรรถนะ/พฤติกรรม (Competence) | ความหมาย (Definition) | คํากริยาที่ใช้ (Useful Verbs) |
ทักษะที่แสดงออก (Skills Demonstrated) |
ตัวอย่างคําถาม (Sample Question Stems) |
ผลผลิตและกิจกรรมที่มีศักยภาพ (Potential Activities and Products) |
1. ความรู้ ความจํา | มีความรู้และความจำประสบการณ์ในสิ่งที่เกิดขึ้นจากการเรียนรู้ | บอก, ชี้, บ่ง, ให้, รายการ, จับคู่, บอกข้อ, ให้นิยาม, ระบุ | - การสังเกตและการระลึก ข้อมูล - ความรู้เกี่ยวกับวันที่เหตุการณ์ สถานที่ - ความรู้เกี่ยวกับความคิดหลัก - ความรอบรู้ในเนื้อหาวิชา |
- เกิดอะไรขึ้นหลังจาก...? - มี...จำนวนเท่าใด? - นั่นใครที่กำลัง..? - คุณสามารถบอกชื่อ...ได้ไหม? - จงบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่... - ใครพูดกับ..? - อะไรคือ...? - ข้อไหนถูกหรือผิด? |
- จงทำรายการเหตุการณ์สำคัญ - จงลำดับเวลาที่เกิดเหตุการณ์ - จงทำแผนภูมิข้อเท็จจริง - จงเขียนข้อมูลต่าง ๆ ที่คุณจำได้ - จงระบุ...ทั้งหมดในเรื่อง - จงเขียนแผนภูมิที่แสดง... - จงเขียนกลอนที่มีสัมผัสอักษร - จงท่องโคลงมาหนึ่งโคลง |
2. ความเข้าใจ | มีความเข้าใจเรื่องราวหรือเหตุการณ์ความหมายสัญลักษณ์ ความสัมพันธ์ ข้อมูล คติ พจน์และหลักการ |
แปลเปลี่ยน, บอกความแตกต่าง, บอกความคล้ายคลึง, ขยายความ, ยกตัวอย่าง, อธิบาย ความหมาย, สรุป, จัดเรียง, เรียงใหม่, สาธิตเผยแพร่, พรรณา, ให้เหตุผลอธิบาย, อภิปราย |
- ความเข้าใจข้อมูล - จับความหมาย - แปลความรู้ไปสู่บริบทใหม่ - ตีความเปรียบเทียบ - เทียบเคียงข้อเท็จจริง - จัดระเบียบ จัดกลุ่มอ้างอิง - ข้อมูลหรือสาเหตุ - คาดเดาผลต่อเนื่อง |
- คุณเขียน...เป็นคำพูดของตนเองได้ไหม? - คุณสามารถเขียนโครงร่างย่อๆ ของ...ได้ไหม? - คุณคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป - คุณคิดว่าใคร...? - ใจความสำคัญของ...คืออะไร? - ใครคือตัวละครหลัก...? - คุณสามารถแยกความแตกต่างระหว่าง...? - มีข้อแตกต่างอะไรบ้างระหว่าง...? - พอจะยกตัวอย่างประกอบคำอธิบายได้ไหม? - หาคำจำกัดความของ...ได้ไหม? |
- ตัดแปะหรือวาดภาพเพื่อแสดงเหตุการณ์พิเศษเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง - ขยายความสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นใจความสำคัญ - จงวาดการ์ตูน 3 ช่องแสดงลำดับเหตุการณ์ - จงเขียนและแสดงละครตามเรื่องที่อ่าน - จงวาดภาพสถานที่ที่คุณชอบ - จงเขียนรายงานสรุปเหตุการณ์ - จงเตรียม flow chart แสดงลำดับความต่อเนื่องของเหตุการณ์ต่าง ๆ |
3. การนำไปใช้ | สามารถนำความรู้ที่ได้เรียนมาใช้ทำสิ่งใหม่ ๆ ได้ | ประยุกต์, จัดระบบ, แก้ปัญหา, เปลี่ยนแปลง, ใช้, จัดชั้น, เลือก, การโชว์, การคำนวณ, การจัดทำโครงการใหม่, เสนอ |
- ใช้ข้อมูล - ใช้วิธีการ แนวคิด ทฤษฎีในสถานการณ์ใหม่ - แก้ปัญหาโดยใช้ทักษะหรือความรู้ที่กำหนดให้ |
- คุณรู้จักตัวอย่าง/กรณีที่..... - เรื่องนี้อาจจะเกิดขึ้นได้ ใน...? - คุณจัดกลุ่มโดยอุปนิสัยเช่น...ได้ไหม? - คุณจะเปลี่ยนองค์ประกอบตัวใด ถ้า...? - คุณสามารถประยุกต์วิธีการที่ใช้เข้ากับประสบการณ์ของตนเองในด้าน...ได้ไหม - คุณจะถามคำถามอะไรเกี่ยวกับ...? - จากข้อมูลที่ให้ คุณสามารถพัฒนา/เขียนวิธีทำหรือคำสั่งเกี่ยวกับ...ได้ไหม? - ข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ไหม ถ้าคุณมี...? |
- จงทำรูปแบบจำลองเพื่อสาธิตว่ามันทำงานอย่างไร - จงสร้างฉากจำลองเหตุการณ์สำคัญเหตุการณ์หนึ่ง - จงทำสมุดภาพเกี่ยวกับขอบเขตการศึกษา - จงทำแผนที่กระดาษนูนที่รวบรวมข้อมูลที่สัมพันธ์กับเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง - รวบรวมภาพถ่ายเพื่อนำเสนอประเด็นสำคัญ - ออกแบบยุทธศาสตร์การตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของตนโดยเลียนแบบยุทธศาสตร์ที่เป็นที่รู้จัก |
4. การวิเคราะห์ | สามารถแยกวัตถุสิ่งของเป็นส่วน ๆ เป็นชิ้นเป็นอันทำให้ทราบถึงองค์ประกอบของวัตถุ สิ่งของนั้น ๆ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อการศึกษาระดับ ชั้นสูงต่อไป |
เปรียบเทียบ, แยกแยะ, ความแตกต่าง, ทดสอบ, ทดลอง, วิเคราะห์ , ตรวจสอบ, โต้แย้ง, ถามสังเกต, ให้เหตุผล, จัดประเภท, จำแนก |
- การเห็นวิธีการต่าง ๆ - การจัดการส่วนต่าง ๆ - การจดจำความหมายต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ - การระบุลักษณะขององค์ประกอบ |
- เหตุการณ์ใดสามารถเกิดขึ้นได้...? - ถ้า...เกิดขึ้นจุดจบน่าจะเป็นอย่างไร? - สิ่งชี้คล้ายคลึงกับ...อย่างไรประเด็นที่ซ่อนเร้นของ...คืออะไร? - มีผลลัพธ์อื่นใดบ้างที่มีทางจะเป็นไปได้? - ทำไมการเปลี่ยนแปลงใน...จะเกิดขึ้นได้? - คุณเปรียบเทียบ...กับที่แสดงใน...? - อธิบายได้ไหมว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อ...? - มีอะไรเป็นแรงจูงใจอยู่เบื้องหลัง...? - มีอะไรเป็นจุดเปลี่ยนในเกมนั้น? |
- ออบแบบแบบสอบถามเพื่อรวบรวมข้อมูล - เขียนประชาสัมพันธ์เพื่อขายผลิตภัณฑ์ใหม่ - จงสำรวจหาข้อมูลเพื่อสนับสนุนทัศนะใดทัศนะหนึ่ง - ทำ flow chart เพื่อแสดงสภาวะวิกฤตต่าง ๆ - จงทำกราฟเพื่อแสดงข้อมูลที่เลือกมา - จงทำผังครอบครัวแสดงถึงสัมพันธภาพ - ให้จัดงานปาร์ตี้ จงเตรียมการทุกอย่างและบันทึกขั้นตอนที่จำเป็น |
5. การสังเคราะห์ | สามารถรวมความคิดเห็น ความเชื่อที่ แตกต่างกัน เชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างข้อความ รวมสิ่งย่อยเข้า เป็นสิ่งใหญ่ |
รวม, บูรณาการ, เปลี่ยน, จัดแจง, ใช้แทน, วางแผน, สร้างสรรค์, ออกแบบ, ประดิษฐ์อะไรจะเกิดขึ้นถ้า...? สร้างประกอบ, เตรียม, สรุปกฎเขียนใหม่ | - ใช้ความคิดเดิมมาสร้างแนวคิดใหม่ - สรุปกฎเกณฑ์จากข้อเท็จจริงที่ให้ - เชื่อมโยงความรู้จากหลาย ๆ สาขา - คาดคะแน - ลงข้อสรุป |
- ให้ออกแบบ...เพื่อ... - ทำไมไม่แต่งเพลงเกี่ยวกับ...? - ให้คิดหาวิธีแก้ปัญหาโจทย์เพื่อ... - ทำไมไม่เปลี่ยนวิธีการของตนเพื่อจัดการกับ...? - อะไรจะเกิดขึ้นถ้า...? - มีวิธีการกี่วิธีที่สามารถ...? - คุณเห็นว่าควรมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างสำหรับ...? - คุณเชื่อไหม? |
- ให้ออกแบบที่เก็บงานที่ศึกษา - ให้สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ตั้งชื่อและวางแผนรณรงค์การตลาด - ให้เตรียมเกณฑ์การตัดสินสำหรับกรรมการตัดสินการแสดง...ระบุเงื่อนไขข้อยกเว้นและน้ำหลักคะแนน - จัดการโต้วาทีเกี่ยวกับประเด็นที่อยู่ในความสนใจเป็นพิเศษ - ให้คิดกฎกติกา 5 อย่างที่เห็นว่าสำคัญในการปฏิบัติตนเพื่อโน้มน้าวคนอื่นให้ปฏิบัติตาม - จัดอภิปรายเกี่ยวกับทัศนะต่าง ๆ เช่น การเรียนที่โรงเรียน - เขียนจนหมายหนึ่งฉบับถึง...เสนอแนะการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นในเรื่อง... - เขียนรายงานเกี่ยวกับ..... - เตรียมเรื่องสำหรับนำเสนอข้อคิดเห็นของตนเกี่ยวกับ..... |
คำกริยาที่บ่งถึงประเภทและระดับพฤติกรรม
ตารางแสดงตัวอย่างคำกริยาที่บ่งถึงประเภทและระดับพฤติกรรมในการเขียนจุดประสงค์การสอน
ประเภท | ระดับ | จุดประสงค์ทั่วไป | จุดประสงค์เฉพาะ |
พุทธพิสัย | ความรู้ | รู้ระบบแบบแผน, รู้ระดับขั้นตอน, รู้กฎเกณฑ์, รู้วิธีการ, รู้กระบวนการ, รู้ทฤษฎี | บอกความหมาย, บอกคำจำกัดความ, บอกรูปแบบ, บอกกฎ, บอกชนิด, บอกชื่อ, ระบุชื่อ, บอกหลักการ, บอกข้อกำหนด, บอกองค์ประกอบ, บอกลักษณะ, บอกการกระทำ, บอกวิธีใช้, บอกวิธีปฏิบัติ, บอกวิธีการ, จัดประเภท, จำแนก, เขียนรูปแบบ, เขียนลำดับขั้น |
ความเข้าใจ | เข้าใจเรื่องเกี่ยวกับ, เข้าใจทฤษฎี, เข้าใจกระบวนการ, เข้าใจกฎเกณฑ์, เข้าใจหลักสูตร, เข้าใจหลัก, วิธีการ | อธิบาย, ให้ความหมาย, เขียนสูตร, บรรยายขยายความ, เขียนลักษณะโครงสร้าง, อธิบายขั้นตอน, ตีความ, แยกข้อแตกต่าง | |
การนำไปใช้ | แก้ปัญหา, ตรวจสอบ, คำนวณ, พิจารณาเลือก, ประมาณการ, จัดทำ, ใช้สูตรคำนวณ, ใช้เครื่องมือสอบ, ใช้ระเบียบปฏิบัติ | สรุปความ, หาจุดบกพร่อง, ลงความเห็น, บอกวิธีการ, แก้, คาดคะเน, คำนวณหาค่า, พยากรณ์, โดยกำหนด,ประมาณค่าแรง, ซ่อม, จุดบกพร่องเลือกหรือค้นหา | |
สูงกว่า | อภิปราย, วางแผน, ออกแบบ, พัฒนา, วิเคราะห์, สร้างสรรค์, ประเมินผล, ประเมินค่า | ปรับปรุงปฏิบัติ, เขียนแผลงาน, หาขนาดหรือหาค่า, โดยใช้ตาราง, ชี้ข้อดีข้อเสีย, วางหลักการ, เขียนกำหนดการ, เขียนแผนการ, จัดลำดับขั้นตอน, คำนวณขนาด, คำนวณเปรียบเทียบ, วางแผน, เขียนโครงสร้าง, เปลี่ยนแปลง, ปรับปรุง, พิจารณาเลือก | |
ทักษะพิสัย | ไม่แบ่งระดับ | ใช้เครื่องมือ, ใช้อุปกรณ์, ปฏิบัติงาน, ติดตั้งอุปกรณ์, ตรวจสอบและแก้ไข, ซ่อมบำรุง, ทำ, สร้าง, ประดิษฐ์ | ประดิษฐ์, พิจารณาเปรียบเทียบ, ออกแบบ, เลือก, ตัดสิน
คำกิริยาที่เกี่ยวกับปฏิบัติการที่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น ผูกรอก ทาสี ตอกระปู วัดขนาด ทำความสะดาด ถอด ใส่ เจาะ เย็บ เขียนหรือสเก็ตภาพ ลับมีด ตั้งศูนย์ล้อ ติดตา ต่อกิ่ง ฉีดยา |
จิตพิสัย | ไม่แบ่งระดับ | เห็นความสำคัญ, เห็นคุณค่า, รับผิดชอบ, ทัศนคติ กิจนิสัย, มีระเบียบ, สะอาด, ปราณีต | แสดงความเสียใจ, เห็นด้วย, ให้ความร่วมมือ ,ปฏิบติตาม, ร่วมกิจกรรม, ปฏิบัติงานตรงเวลา, แสดงออกของกิจนิสัย, สอบถามติดตาม |
หมายเหตุ คำกิริยาสำหรับจุดประสงค์เฉพาะบางคำใช้ได้กับพฤติกรรมหลายระดับ เช่น คำว่า บอก เขียน คำนวณ ดังนั้นการพิจารณาจุดประสงค์ว่าจะอยู่ในระดับใดขึ้นอยู่กับข้อความที่ตามหลังกิริยา นั้น
แหล่งอ้างอิง
Bloom's Taxonomy: The Psychomotor Domain. (2015, Jan 12). http://www.nwlink.com/~donclark/hrd/Bloom/psychomotor_domain.html
Saideeg, A. (2016). Bloom’s Taxonomy, Backward Design, and Vygotsky’s Zone of Proximal Development in Crafting Learning Outcomes. International Journal of Linguistics. 8(2)158-186. DOI: 10.5296/ijl.v8i2.9252